วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ข้อมูลสารสนเทศบ้านบรเพร็ด

รายงานการพัฒนาหมู่บ้าน (Village Development Report : VDR)
บ้านบอระเพ็ด หมู่ที่ 5 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์

2. สภาพทั่วไปของหมู่บ้าน
2.1 ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน
บ้านบรเพ็ด อยู่ห่างจากอำเภอ จอมพระจังหวัดสุรินทร์ ไปทางทิศตะวันตก ระยะทาง 5กิโลเมตร เดิมเป็นบ้านขมิ้นตำบลกระหาด ขึ้นอยู่กับการปกครองของอำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาได้ยกฐานะตั้งเป็นหมู่บ้าน เมื่อ พ.ศ 2515 ในตำบล เป็นสุข มาเท่าทุกวันนี้


2.2 ที่ตั้ง/ลักษณะภูมิประเทศ/ทรัพยากรของหมู่บ้าน
ลักษณะภูมิประเทศ เป็นที่ราบดินละเอียด พื้นล่างเป็นดินลูกรังและหินดาน บางแห่งเป็นดินทรายพื้นที่ มีเนื้อที่ทั้งหมด ประมาณ 1,812 ไร่ที่อยู่ 500 ไร่ การเกษตร/อื่นๆ 1,312 ไร่ที่ตั้ง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ของอำเภอ จอมพระ ห่างจากอำเภอ ระยะทาง 5 กม. จากจังหวัด ประมาณ 28 กิโลเมตร




แหล่งทรัพยากรน้ำ
หมู่บ้านมีแหล่งน้ำ ที่สำคัญ 3 แห่ง คือ
1. หนองยุคปลัด พื้นที่ 7 ไร่ มีน้ำใช้ตลอดปี
2.หนองบรเพ็ด พื้นที่ 5 ไร่ มีน้ำใช้ตลอดปี
3. ฝายบรเพ็ด พื้นที่ 1,000 เมตร มีน้ำใช้ตลอดปี

อาณาเขต
 ทิศเหนือ ติดต่อกับบ้านระวี หมู่ที่ 8 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
 ทิศใต้ ติดต่อกับบ้านโพธิ์งาม หมู่ที่ 4 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
 ทิศตะวันออก ติดต่อกับบ้านโนนสังข์ หมู่ที่ 8 ตำบลจอมพระ อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
 ทิศตะวันตก ติดต่อกับบ้านขาม หมุ่ที่ 6 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์
การคมนาคม มี 2 เส้นทาง
1) ทางหลวงชนบท หมายเลข สร.3009 สายบ้านขาม – บ้าน บะ
2) ทางหลวงชนบท สายจอมพระ – สตึก



สภาพภูมิอากาศ
บ้านบรเพ็ด ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ได้พัดพาเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา และยังได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ พัดเอาฝนและความชื้นเข้ามา ทำให้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในรอบปีที่แตกต่างกัน แบ่งออกเป็น 3 ฤดู คือ
1) ฤดูฝน อยู่ช่วง เดือนพฤษภาคม ถึง เดือนตุลาคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมที่ก่อให้เกิดฝนตกทั่วประเทศ ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 1,100 – 1,300 มิลลิลิตร/ปี และอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27 องศาเซลเซียส
2) ฤดูหนาว อยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคม โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมที่พัดเอาความหนาวเย็น และความแห้งแล้งเข้ามา อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 23 องศาเซลเซียส
3) ฤดูร้อน อยู่ในช่วง เดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน โดยได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นลมร้อนพัดมาจากทะเลจีนใต้ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 30 องศาเซลเซียส และจะสูงสุดปลายเดือนเมษายน
2.3 จำนวนครัวเรือนและประชากร
แบ่งออกเป็นคุ้ม 3 คุ้ม รวม 64 หลังคาเรือน ประชากรทั้งหมด 304 ครัวเรือน ชาย 154 คน หญิง 157 คน รวม 311 คน
ประชากรตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 จำนวน 51 ครัวเรือน ชาย 94 คน หญิง 90 คน รวม184 คน ไม่มีครัวเรือนตกเกณฑ์เรื่องรายได้ รายละเอียดตามตารางท้ายนี้
ลักษณะประชากร (จำนวนร้อยละของประชากร)
ตามช่วงอายุ ชาย หญิง จำนวนคน ร้อยละ
น้อยกว่า 1 ปีเต็ม 2 2 4 2.17
1 ปีเต็ม – 2 ปี 6 2 8 4.34
3 ปีเต็ม – 5 ปี 5 3 8 4.34
6 ปีเต็ม – 11 ปี 10 16 26 14.13
12 ปีเต็ม – 14 ปี 9 5 14 7.60
15 ปีเต็ม – 17 ปี 4 5 9 4.89
18 ปีเต็ม – 49 ปี 36 30 66 35.86
50 ปีเต็ม – 60 ปี 11 11 22 11.95
มากกว่า 60ขึ้นไป ปีเต็ม 11 16 27 14.67
รวมทั้งหมด 94 90 184 100
หมู่บ้าน บรเพ็ด มีจำนวนประชากร 184 คน อายุส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 18 – 49 ปี
คิดเป็นร้อยละ 35.86

2.4 สภาพทางเศรษฐกิจ(รายได้ รายจ่าย เงินออม การประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์)
รายได้ เฉลี่ยต่อคนต่อปี (ข้อมูล จปฐ. ปี 2551) เป็นเงิน 34,938 บาท ทุกครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยเกิน 23,000 บาท/คน/ปี
รายจ่าย เฉลี่ยต่อคนต่อปี เป็นเงิน 26,507 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 95,635 บาท
เงินออม เฉลี่ยต่อคนต่อปี เป็นเงิน 323 บาท ต่อครัวเรือน เป็นเงิน 1,168 บาท
ตารางรายละเอียดข้อมูลท้ายนี้
ข้อมูลรายได้ ตาม จปฐ. ปี 2551
รายได้ (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ปลูกพืช ไว้ขาย 1,621,000.00
ไว้กิน 594,000.00
รวม 2,215,000.00 34.45% 43,431.37 12,038.04
ทำสวน ไว้ขาย 35,000.00
ไว้กิน 142,000.00
รวม 177,000.00 2.75% 3,470.59 961.96
ทำไร่ ไว้ขาย 67,000.00
ไว้กิน 71,500.00
รวม 138,500.00 2.15% 2,715.69 752.72
ทำสวนไม้ดอก ไว้ขาย 5,500.00
ไว้ใช้ 45,500.00
รวม 51,000.00 0.79% 1,000.00 277.17
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านพืช 2,581,500.00 40.16% 50,617.65 14,029.89
เลี้ยงสัตว์ ไว้ขาย 828,500.00
ไว้กิน 165,400.00
รวม 993,900.00 15.46% 19,488.24 5,401.63
ทำประมง ไว้ขาย 38,000.00
ไว้กิน 121,500.00
รวม 159,500.00 2.48% 3,127.45 866.85
รวมรายได้ภาคเกษตร-ด้านสัตว์ 1,153,400.00 17.94% 22,615.69 6,268.48
แปรรูปผลผลิต
ผลผลิตแปรรูป ไว้ขาย 2,000.00
ไว้กิน 33,000.00
รวม 35,000.00 0.54% 686.27 190.22
รวมรายได้จากการแปรรูปผลผลิต 35,000.00 0.54% 686.27 190.22
รายได้ที่เป็นตัวเงิน
เงินเดือน/ค่าจ้าง 1,465,800.00 22.80% 28,741.18 7,966.30
รายได้จากค้าขาย 153,000.00 2.38% 3,000.00 831.52
รายได้จากประกอบธุรกิจ - 0.00% - -
รายได้อื่นๆ 1,040,000.00 16.18% 20,392.16 5,652.17
รวมรายได้ที่เป็นตัวเงิน 2,658,800.00 41.36% 52,133.33 14,450.00
รวมรายได้ทั้งหมด 6,428,700.00 100.00% 126,052.94 34,938.59
ข้อมูลรายจ่าย ตาม จปฐ. ปี 2551
รายจ่าย (บาท) ร้อยละ เฉลี่ย(บ./คร.) (บ./คน)
ค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนการผลิต
ก. พันธุ์พืช-สัตว์ 136,800.00 2.80% 2,682.35 743.48
ข. สารเคมี 220,500.00 4.52% 4,323.53 1,198.37
ค. ค่าจ้าง 442,000.00 9.06% 8,666.67 2,402.17
ง.เครื่องจักร 120,500.00 2.47% 2,362.75 654.89
รวม 919,800.00 18.86% 18,035.29 4,998.91
ค่าใช้จ่ายในการอุปโภคและบริโภค
ซื้อข้าวสาร 284,780.00 5.84% 5,583.92 1,547.72
ซื้ออาหารที่จำเป็น 1,861,630.00 38.17% 36,502.55 10,117.55
ซื้อขนม 173,900.00 3.57% 3,409.80 945.11
เสื้อผ้า 97,800.00 2.01% 1,917.65 531.52
ที่อยู่อาศัย - 0.00% - -
ค่ารักษาพยาบาล 95,800.00 1.96% 1,878.43 520.65
ด้านการศึกษา 149,900.00 3.07% 2,939.22 814.67
น้ำมันรถ-ค่าโดยสาร 167,900.00 3.44% 3,292.16 912.50
ค่าน้ำ-ค่าไฟ 124,900.00 2.56% 2,449.02 678.80
ค่าโทรศัพท์ 85,600.00 1.76% 1,678.43 465.22
ใช้จ่ายส่วนบุคคล 162,400.00 3.33% 3,184.31 882.61
ค่าบันเทิง 59,500.00 1.22% 1,166.67 323.37
ค่าบุหรี่-สุรา 118,900.00 2.44% 2,331.37 646.20
อื่นๆ 574,600.00 11.78% 11,266.67 3,122.83
รวม 3,957,610.00 81.14% 77,600.20 21,508.75
รวมรายจ่ายทั้งหมด 4,877,410.00 100.00% 95,635.49 26,507.66

หนี้สินจากบัญชีครัวเรือน 3,201,000.00 62,764.71 17,396.74

เงินออมจากบัญชีครัวเรือน 59,600.00 1,168.63 323.91



การประกอบอาชีพ
ลักษณะอาชีพ
1. การทำนา จำนวน 51 ครัวเรือน ร้อยละ 100
2. การทำสวน จำนวน 2 ครัวเรือน ร้อยละ 3.92
3. การเลี้ยงสัตว์ จำนวน 51 ครัวเรือน ร้อยละ 100
4. การทำไร่ จำนวน 2 ครัวเรือน ร้อยละ 3.92
5. การทำอาชีพอื่นๆ จำนวน 11 ครัวเรือน ร้อยละ 21.56

ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ


ชื่อสินค้า ผ้าไหม
ผลิตโดย กลุ่มสตรี
รายละเอียดสินค้า ผ้าไหมมัดหมี่
ปริมาณการผลิต/เดือน 20 ผืน/เดือน


2.5 สภาพทางสังคม
ภาษาพูดและศาสนา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ ภาษาส่วย , ภาษาเขมร และภาษาพื้นเมืองอีสาน (ลาว) นับถือศาสนาพุทธ
สภาพบ้านเรือนมีความมั่นคงถาวร มีการจัดบ้านเรือนเป็นระเบียบถูกสุขลักษณะ ครอบครัวมีความอบอุ่น ผู้สูงอายุและคนพิการได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
จำนวนสถานศึกษา
ไม่มีสถานศึกษาในหมู่บ้าน ไปเรียนที่โรงเรียนบ้านขมิ้นเรืองราษฎร์รังสรรค์ หมู่ที่ 4 ตำบลเป็นสุข



ขนบธรรมเนียม ความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณี
1. ประเพณีบุญข้าวจี่ เป็นการนำข้าวเหนียวที่ปั้นโรยเกลือทาไข่ไก่ แล้วจี่ไฟให้สุกการทำบุญมีให้ทานข้าวจี่เป็นต้น การทำบุญข้าวจี่มีผู้นิยมทำกันมาก เพราะมีความเชื่อว่าได้บุญกุศลมาก เพราะเป็นการละทานชนิดหนึ่ง เวลาทำกำหนดเอาเดือนสาม จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสาม
2. ประเพณีบุญพระเวส บุญที่มีการเทศน์พระเวส หรือมหาชาติ บุญพระเวสกำหนดทำเดือนสี่ จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าบุญเดือนสี่
3. ประเพณีบุญสรงน้ำ เป็นการรดน้ำพระพุทธรูป พระสงฆ์หรือผู้หลักผู้ใหญ่ หรือการสรงน้ำ มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ตรุษสงกรานต์ หรือบุญเดือนห้า
4. ประเพณีบุญเข้าพรรษา โดยปกติกำหนดเอาวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 จะมีการแห่เทียน ถวายผ้าอาบน้ำฝน และไปทำบุญที่วัด
5. ประเพณีบุญข้าวสาก หรือบุญเดือนสิบ จะมีการรวมญาติพี่น้อง ไหว้บรรพบุรุษ เลี้ยงอาหารระหว่างญาติพี่น้อง และมีการไปทำบุญตักบาตรที่วัด
6. ประเพณีออกพรรษา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ตั้งแต่เช้ามืดพระสงฆ์จะไปรวมกันที่โบสถ์เพื่อแสดงอาบัติแล้วทำวัตรเช้า พอรุ่งเช้าจะมีการทำบุญตักบาตร
7. ประเพณีพลอง จะจัดขึ้นในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 2 จัดขึ้นเพื่อการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยการนำเอาข้าวหลามและขนม ข้าวต้มไปทำบุญที่วัด
8. ประเพณีเซ่นปู่ตา จะจัดขึ้นในวันขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 จัดขึ้นเพื่อขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้เคยล่วงเกินในช่วงที่ไปทำนาในฤดูกาลที่ผ่านมา
9. ประเพณีรำแม่มด เป็นประเพณีที่เป็นความเชื่อของชาวบ้านในเรื่องของการช่วยให้คนไข้หาย จากการเจ็บป่วย โดยการจัดพิธีกรรมแล้วจะมีแม่หมอมาเข้าทรงแล้วก็จะไถ่ถามแม่หมอว่าทำไมคนคนนี้ถึงได้เจ็บป่วย และ จะให้ทำอย่างไร แก้ไขอย่างไร จากนั้นญาติของผู้ป่วยก็จะไปดำเนินการตามที่แม่หมอได้บอกมา
10. ประเพณีแห่นาค ตัวของนาคจะต้องมีการแต่งหน้าทาแก้มแดง พาดด้วยผ้าสีสด คือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงินสีเหลืองและจะต้องสวมชฎาการสวมชฎาหมายถึง หัวของนาคที่เป็นสัตว์ที่ต้องการบวชในพระพุทธศาสนา ส่วนการที่ต้องแต่งหน้านาคให้เหมือนผู้หญิงเพื่อให้หญิงคนรักของนาคดูไม่ออกว่าเป็นผู้ชาย เพราะผู้หญิงนั้นจะอยู่ใกล้กับพระไม่ได้ การแห่นาคก็แห่ด้วยช้าง รถยนต์ หรือยานพาหนะอื่นๆ ตามแต่ฐานะของผู้บวช






ภูมิปัญญาท้องถิ่น
1. ด้านหมอเป่าต่อกระดูก ผู้สืบทอดมีนายมี ปานทอง
2. ด้านหมอเป่าไส้เลื่อน ผู้สืบทอดมีนายเพ็ง ปานทอง
3. ด้านดนตรีพื้นบ้าน ผู้สืบทอดมีนายสวน ยืนยง
2.6 ทรัพยากรธรรมชาติ/สิ่งแวดล้อม






2.7 กลุ่ม/องค์กรที่สำคัญ และมีกิจกรรมที่ดำเนินการต่อเนื่อง
1. การดำเนินงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง มีเงินทุน 1,000,000 บาท กรรมการกองทุน 9 คน สมาชิก 56 คน
2. การดำเนินงานกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต มีเงินทุน 40,600 บาท กรรมการกองทุน 9 คน สมาชิก 46 คน
3. การดำเนินงานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) มีเงินทุน 280,000 บาท กรรมการกองทุน 9 คน สมาชิก 48 คน
4. กลุ่มอาชีพทอผ้า มีเงินทุน 18,000 บาท กรรมการกองทุน 9 คน สมาชิก 15 คน
5. กลุ่มธนาคารข้าว มีเงินทุน 45,000 บาท กรรมการกองทุน 7 คน สมาชิก 48 คน
6. องค์กรในหมู่บ้านมี 11 องค์กร
 คณะกรรมการหมู่บ้าน จำนวน 9 คน
 คณะกรรมการพัฒนาสตรีหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
 อสม. จำนวน 5 คน
 อาสาพัฒนาชุมชน จำนวน 4 คน
 อปพร. จำนวน 5 คน
 กรรมการกลุ่มออมทรัพย์ฯ จำนวน 9 คน
 กลุ่มอาชีพทอผ้า จำนวน 5 คน
 คณะกรรมการ กข.คจ. จำนวน 9 คน
 กลุ่มธนาคารข้าว จำนวน 7 คน
 คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน จำนวน 9 คน
 อาสาสมัตรป้องกันยาเสพติด จำนวน 21 คน












3. การประเมินสถานการณ์พัฒนาหมู่บ้าน
3.1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน(กชช.2ค) ปี 2550
บ้านบรเพ็ด ได้ดำเนินการจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช.2 ค) ปี 2550 จำนวนครัวเรือนทั้งหมด 51 ครัวเรือน ราษฎร 184 คน สรุปผลการประเมินที่สำคัญ ดังนี้
ระดับการพัฒนาหมู่บ้าน เป็นหมู่บ้านเร่งรัดพัฒนาอันดับ 3
ตัวชี้วัดที่มีปัญหา มีตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรง ที่หมู่บ้านกำลังประสบอยู่ จำนวน 3 ตัวชี้วัด เรียงตามลำดับจากจำนวนหมู่บ้านที่ประสบปัญหาจำนวนมากไปหาน้อย ดังนี้
ลำดับปัญหา ดัชนีชี้วัด(เลขลำดับ) สภาพปัญหา
ระดับ หมายเหตุ
1. การเรียนรู้โดยชุมชน(22) 1
2. ผลผลิตจากการทำการเกษตรอื่น(12) 1
3. คุณภาพดิน(27) 2
แนวทางการพัฒนา จากสภาพปัญหารุนแรงที่หมู่บ้านประสบอยู่ที่สำคัญ 3 ลำดับแรก หมู่บ้านได้กำหนดแนวทางการพัฒนา ดังนี้
1. ปัญหาการเรียนรู้โดยชุมชน (ข้อ 22) เป็นตัวชี้วัดที่มีปัญหารุนแรงอันดับแรก หมู่บ้านกำหนดแนวทางการพัฒนาโดยการส่งเสริมให้หมู่บ้าน/ชุมชน มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆที่มีอยู่แล้วในชุมชน เช่น การประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน การประชุมคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน การจัดเวทีประชาชาคมหมู่บ้านเพื่อทบทวนปรับปรุงแผนชุมชน อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อชุมชนจะได้เกิดกระบวนการเรียนรู้ และถ่ายทอดองค์ความรู้ภายในชุมชนอย่างต่อเนื่อง การฝึกอบรมเพิ่มพูนประสิทธิภาพคณะกรรมการหมู่บ้าน คณะกรรมการกลุ่ม/องค์กรที่อยู่ในชุมชนให้มีขีดความสามารถในการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงให้เกิดขึ้นในชุมชน เป็นต้น
2. ปัญหาผลผลิตจากการทำการเกษตรอื่น (ข้อ 12) ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่หมู่บ้านประสบปัญหารุนแรงอันดับที่ 2 หมู่บ้านได้ดำเนิน การอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรในเรื่องการประกอบอาชีพด้านการเกษตรอื่นที่นอกเหนือจากการทำนาเพื่อเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์รวมทั้งการงด ลดการใช้สารเคมีและสารพิษ ของเกษตรกร
3. ปัญหาคุณภาพของดิน (ข้อ 27) ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่หมู่บ้านประสบปัญหารุนแรงอันดับที่ ......หมู่บ้านได้ดำเนิน การพัฒนาและปรับปรุงบำรุงดิน รวมทั้งการงด ลดการใช้สารเคมีและสารพิษ ของเกษตรกร เนื่องจากสภาพดินในพื้นที่อำเภอจอมพระ เป็นดินทราย ดินเปรี้ยว ดินเค็ม และเป็นดินที่ขาดการบำรุง หรือปรับคุณภาพดิน


3.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน(จปฐ.) ปี 2551
ผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนบ้านบรเพ็ด ตามข้อมูล จปฐ. ปี 2551 พบว่า ประชาชนบรรลุเกณฑ์ชี้วัดความจำเป็นพื้นฐาน จำนวน 39 ตัวชี้วัด ไม่บรรลุเกณฑ์ชี้วัด 2 ตัวชี้วัด เรียงตามลำดับที่ยังไม่บรรลุเป้าหมายจากมากไปหาน้อย ดังนี้
ลำดับ ลำดับ/ตัวชี้วัด จำนวนต้องแก้ไข ต่ำกว่าเป้าหมาย(%)
1. เด็กที่จบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ได้เรียนต่อมัธยมศึกษาตอยปลายหรือเทียบเท่า (25) 1 7.5
2. คนในครอบครัวไม่ติดสุรา(32) 3 1.6
แนวทางการพัฒนา จากตัวชี้วัดที่ครัวเรือนไม่ผ่านเกณฑ์การประเมินที่มีความสำคัญ 2ลำดับแรก หมู่บ้านได้กำหนดแนวทางการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ดังนี้
1.ตัวชี้วัดเด็กที่จบการศึกษาภาคบังคับ 9 ปี ได้เรียนต่อมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่ครัวเรือน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 2คน หมู่บ้านได้วางแนวทางการแก้ไขปัญหา คือส่งเสริมให้เด็กที่เรียนจบได้เข้าเรียนในโรงเรียนขยายโอกาสหรือโรงเรียนในเขตบริการเพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายและผู้นำชุมชนได้ประสานงานกับศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อให้เด็กที่พลาดจากการศึกษาในระบบได้เรียนต่อ
2.ตัวชี้วัดคนในครัวเรือนไม่ติดสุรา ในภาพรวมเป็นตัวชี้วัดที่ครัวเรือน ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จำนวน 3 คน หมู่บ้าน ให้ความสำคัญในการรณรงค์เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับพิษภัยของสุราแก่ประชาชน และในการแก้ไขปัญหาต้องให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัวให้เข้ามามีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวในเบื้องต้น ผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณในการจัดกิจกรรมที่ยึดครอบครัวเป็นศูนย์กลางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น การจัดกิจกรรมค่ายครอบครัวเข้มแข็งปลอดสุราและยาเสพติด การคัดเลือกคนต้นแบบที่ประสบผลสำเร็จในการเลิกดื่มสุรา ส่งเสริมให้สถาบันทางสังคมของชุมชน เป็นสถานที่ปลอดสุรา เช่น วัดปลอดเหล้า เป็นต้น ส่งเสริมให้ชุมชนจัดระเบียบชุมชนปลอดสุรา เช่น หมู่บ้านปลอดเหล้า งานศพปลอดเหล้า เป็นต้น







Input Importance


















Input Importance Table

Input Value, %
15-60 ปีมีอาชีพ 17.401
ไม่ติดสุรา 82.599

4. แนวโน้ม/ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
1. ศักยภาพของหมู่บ้าน
1. เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ / ปลูกผักสวนครัว
2. มีการพัฒนาดินโดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์
3. มีป่าชุมชนและการปลูกป่า
4. มีการเลี้ยงโค – กระบือ ทุกหมู่บ้าน
5. มีแหล่งทุนชุมชนทุกหมู่บ้าน
6. มีแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรกรรม การทอผ้า ฯลฯ
7. มีแหล่งน้ำการเกษตร
8. ภาคีมีส่วนร่วมกิจกรรมทุกระดับ
9. การคมนาคมสะดวก
10. การอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชน
11. มีกลุ่มองค์กรต่างๆที่เข้มแข็ง
12. มีผลิตภัณฑ์ชุมชนดีเด่น
13. มีปราชญ์ชาวบ้าน
2. ปัญหาที่สำคัญของหมู่บ้าน
1 คนในครัวเรือนติดสุรา ประมาณ 3 % จำนวน 1.6 คน
2 ครัวเรือนมีหนี้สิน ประมาณ 51 ครัวเรือน เป็นเงิน 2,000,000 บาท
3 ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง
4 ขาดการบริหารจัดการทุนชุมชน
5 มีการอพยพด้านแรงงานสูง
6 เยาวชนจับกลุ่มมั่วสุม กินสุรา สูบบุหรี่ เล่นการพนัน ทะเลาะวิวาท
7 ขาดอาชีพเสริม
8 ขาดคุณธรรม จริยธรรม
3. ทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน และวิธีการแก้ไขปัญหา
สภาพปัญหา สาเหตุของปัญหา ผลกระทบต่อชุมชน วิธีการแก้ไขปัญหา
ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าอาหารสูง - มีค่านิยมสูง
-ชอบความสะดวกสบาย ขี้เกียจ
- ขาดความรู้ความเข้าใจ
- ติดในรสชาติของอาหาร ง่าย สะดวกในการหาซื้อ - เกิดปัญหาภาวะหนี้สินเพิ่มมากขึ้น
-เด็กๆเบื่ออาหาร /ขาดสารอาหาร
-เกิดโรคต่างๆซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในชุมชน - ส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว
- ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์เพื่อบริโภค
- หาอาหารตามธรรมชาติ
- อบรมให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง
- รณรงค์ให้เห็นถึงอันตรายของเครื่องปรุงแต่งรสชาติของอาหารบางชนิด
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้เห็นคุณค่าทางโภชนาการ
- รณรงค์ให้บุตร-หลานรับประทานอาหารและขนมพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางอาหาร และมีราคาถูก งดอาหารที่ไม่จำเป็นเช่นน้ำอัดลม ขนมขบเขี้ยวต่างๆ เป็นต้น
- ปัญหาหนี้สิน - นโยบายของภาครัฐ
-ธนาคารให้ความสำคัญสะดวกในการกู้เงิน
- ส่งบุตรหลานเรียนต่อในระดับสูงใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
- ค่าครองชีพสูง
- ใช้จ่ายสิ้นเปลืองด้านอุปโภค บริโภคมาก
-เกิดปัญหาการย้ายแรงงานท้องถิ่น
-เกิดปัญหาเป็นหนี้ซ้ำซ้อน -กู้เงินไปใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์
-ระดมทุนออมทรัพย์ในชุมชน
-ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง
-ประกอบอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
-ในชุมชนกลุ่มต่างๆ ไม่ควรปล่อยหนี้ให้กู้ยืมซ้ำซ้อน
-ปัญหาค่าปัจจัยการผลิตทางการเกษตรสูง - ค่านิยมในการผลิตแนวใหม่
- ความเป็นชาวนาโดยอาชีพหายไป แปรสภาพเป็นผู้จัดการนา
- การใช้เทคโนโลยีเพื่อย่นระยะเวลาการผลิตให้เร็วขึ้น
- ความสะดวกสบาย รวดเร็ว
- ความต้องการให้ได้ผลผลิตสูง

-คนในชุมชนขาดความ
เอื้ออาทรต่อกัน
- ทุกอย่างจะเป็นค่าจ้างแรงงานค่าตอบแทน
- ขาดความรักความสามัคคีในชุมชน
- คนในชุมชนเห็นแก่ตัว
-ส่งเสริมประเพณีลงแขก ในการทำนา
-ชี้ให้เห็นความสำคัญของชาวนาแบบดั้งเดิม
-ทำบัญชีฟาร์มเพื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการผลิต
- ลดการใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีต่างๆ
-ใช้ปุ๋ยคอก และผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง
- ส่งเสริมการทำเกษตรอินทรีย์
- ปรับเปลี่ยนค่านิยมใหม่
- ลดการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่




5. กิจกรรม/โครงการและผลการพัฒนาหมู่บ้านในรอบปีที่ผ่านมา ( ต.ค. 50 - ก.ย.51)
5.1 สรุปกิจกรรมการพัฒนาในรอบปีที่ผ่านมา บ้านบรเพ็ด หมู่ที่ 5 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ

ชื่อกิจกรรม / โครงการ ดำเนินการ
ระหว่าง ลักษณะของกิจกรรม เจ้าของ
งบประมาณ งบประมาณ
1.ปลูกผักสวนครัวรั้วกินได้ มค.-มีค.51 ปลูกผักทุกครัวเรือน ชุมชน -
2.ผลิตปุ๋ยน้ำชีวภาพ กพ.51 ผลิตใช้เอง กรมพัฒนาที่ดิน 2,000
3.กิจกรรมกีฬาตำบล ตค.50 ร่วมแข่งขันกีฬาตำบล อบต. 70,000
4.กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ มค.51 ร่วมกิจกรรมวันเด็ก อบต. 50,000
5.ขุดลอกคลอง ธค.50 ขุดคลองส่งน้ำ ชุมชน
6.อบรมและจัดเก็บข้อมูล จปฐ. ธค.50 อาสาสมัครอบรมและจัดเก็บข้อมูลพื้นฐาน อบต. 40,000
7.จัดกิจกรรมตามประเพณี มีค.50- มีค.51 จัดกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี ชุมชน 50,000
5.2 บทบาทของนักพัฒนาในการสนับสนุนการพัฒนาหมู่บ้านตามทิศทางการพัฒนาหมู่บ้าน
5.2.1 การร่วมกำหนดทิศทางการพัฒนาและการแก้ไขปัญหาจากแผนชุมชน
- ร่วมจัดประชาคมการทำแผนชุมชนทุกระดับ
-ประสานงานและประชาสัมพันธ์การเข้าถึงแหล่งทุนของกลุ่มเป้าหมาย
-ส่งเสริมการแก้ไขปัญหาวัยรุ่น เช่นสนับสนุนการเล่นกีฬาต้านยาเสพติด
-ร่วมรณรงค์โครงการงดเหล้างานบุญ งานศพ
5.2.2 การร่วมกำหนดอัตลักษณ์ หรือวิสัยทัศน์ของหมู่บ้าน
“หมู่บ้านเป็นพื้นที่หลักในการบูรณาการแก้ไขปัญหาความยากจน เสริมสร้างความมั่นคงภายใน อำนวยความเป็นธรรมทางสังคม รวมทั้งพัฒนาคุณภาพการให้บริการประชาชนและดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อให้ประชาชนมีความมั่นคงปลอดภัย ได้รับบริการที่สะดวก รวดเร็ว เป็นธรรม และเกิดความสงบสุขในสังคมอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เพื่อพัฒนาคนและสังคมให้มีคุณภาพ”
5.2.3 การจัดทำพันธกิจของหมู่บ้าน
- บูรณาการและดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนโดยอำนวยการบริการราชการ ทุกภาคส่วน
- เสริมสร้างการอำนวยความเป็นธรรม ความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของสังคม
- ส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี การบริการประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน
- เสริมสร้างความมั่นคงภายใน พัฒนางานข่าวกรอง และโครงข่ายการสื่อสารรวมทั้งการแก้ไขปัญหา สถานะและสิทธิของบุคคลที่ยังไม่มีสถานภาพที่ชัดเจน
- จัดระเบียบหมู่บ้าน/ชุมชน และบูรณาการแก้ไขปัญหาหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็ง
- สนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- ขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติในระดับอำเภอ
5.2.4 การจัดทำยุทธศาสตร์ของหมู่บ้าน
- การแก้ไขปัญหาความยากจน
- การพัฒนาคนและสังคมที่มีคุณภาพ และส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
- การพัฒนากฎหมายและส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
- ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย
- เพิ่มขีดความสามารถในการรักษาความมั่นคงภายใน และความสงบเรียบร้อย
- การบริการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
- การบูรณาการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม

6. อัตลักษณ์และตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน แนวทางการพัฒนาอาชีพ
6.1 ผลการวิเคราะห์ภาพรวมของหมู่บ้านในการค้นหาจุดเด่น
อัตลักษณ์ ตำแหน่งการพัฒนาหมู่บ้าน ตำแหน่งการพัฒนาอาชีพหมู่บ้าน
ผ้าไหม
ชุมชนหัตถกรรมทอผ้า ส่งเสริมให้สมาชิกกลุ่มทอผ้าไหมพัฒนาฝีมือในการทอผ้า
6.2 แนวทางการพัฒนาอาชีพของหมู่บ้าน
3.1 ส่งเสริมการทอผ้าไหมด้วยสีธรรมชาติ
3.2 ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพผ้าไหม
3.3 การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้าไหม
3.4 การส่งเสริมสนับสนุนผลิตเส้นไหมที่มีคุณภาพ
3.5 การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์
3.6 การส่งเสริมการตลาดเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์










7. ข้อเสนอแนะของนักพัฒนา ต่อการพัฒนาหมู่บ้าน
7.1 การวิเคราะห์จุดแข็ง(ศักยภาพ)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น ผู้นำ , กลุ่มองค์กร ,เครือข่าย,
ทุน ฯ )
1. คณะกรรมการเข็มแข็ง
2. สมาชิกให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆ
3. ความสามัคคีและซื่อสัตย์ของสมาชิก
4. มีทุนทางสังคม มีภูมิปัญญา
7.2 การวิเคราะห์จุดอ่อน(ปัญหา)ของหมู่บ้าน (ปัจจัยภายใน เช่น หนี้สิน ,ต้นทุนการผลิต, แหล่งน้ำ ฯ )
1. ขาดความรู้ในการจัดทำเอกสาร
2. ขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการกลุ่ม/องค์กร
3. ชาวบ้านมีหนี้สินมาก
4. ขาดแคลนแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร
5. ฝนทิ้งช่วง
6. ขาดความรู้และทักษะในการประกอบอาชีพ
7.ต้นทุนการผลิตสูง
7.3 การวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาของหมู่บ้าน
1. รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณให้หมู่บ้าน/ชุมชนได้ทำโครงการต่างเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและสร้างรายได้และลดรายจ่าย เช่นโครงการยุทธศาสตร์อยู่ดี มีสุข
2. รัฐบาลส่งเสริมด้านการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตรให้มีราคาที่เหมาะสมไม่ตกต่ำจนเกินไป
3. รัฐบาลต้องสนับสนุนและส่งเสริมให้ความรู้และงบประมาณในด้านการผลิตพลังงานทดแทน เช่น ไบโอดีเซล
4. รัฐบาลออกเอกสารสิทธิ์ให้กับผู้ที่ครอบครองในที่ดินทำกินที่ยังไม่มีเอกสารสิทธิ์
7.4 บทบาทของนักพัฒนา ที่จะสนับสนุนในอนาคต
1. ส่งเสริม สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชนที่มีประโยชน์ต่อการเรียนรู้เพื่อพัฒนาหรือแก้ปัญหาต่างๆในชุมชน
2. องค์กรส่วนท้องถิ่นสนับสนุนงบประมาณให้ชุมชนน้อย
3. สร้างเครือข่ายองค์กร เครือข่ายการเรียนรู้ชุมชน
4. สนับสนุนและจัดตั้งศูนย์ประสานองค์การชุมชน


8. คณะทำงานจัดทำรายงานการประเมินพัฒนาหมู่บ้าน

1. ชื่อนายลุน ปานทอง ตำแหน่ง ผู้ใหญ่บ้าน
2. ชื่อนายพิณ ปานทอง ตำแหน่ง ประธานกองทุนหมู่บ้าน
3. ชื่อนายพา พิมพ์ทอง ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
4. ชื่อนายพิณ ปานทอง ตำแหน่ง สมาชิก อบต.
5. ชื่อนายมูล มั่นหมาย ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
6. ชื่อนายสุพรรณ สุขสงวน ตำแหน่ง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
7. ชื่อนางสาวมวย ยืนยง ตำแหน่ง อช.
8. ชื่อนายลุน ปานทอง ตำแหน่ง ประธานประชาคม
9. ชื่อนายประสบชัย สุขแสวง ตำแหน่ง อปพร.
10. ชื่อนายสำเริง ปานทอง ตำแหน่ง อปพร.
11. ชื่อนางสุทัด สุขแสวง ตำแหน่ง กรรมการ
12. ชื่อนายเมือง ปานทอง ตำแหน่ง ปราชญ์ชาวบ้าน
13. ชื่อนางสมพวน พิมพ์ทอง ตำแหน่ง อสม.
14 ชื่อนางเสาร์ ปานทอง ตำแหน่งกรรมการ
15. ชื่อนางบุญล้อม ปานทอง ตำแหน่งกรรมการ
















9. ภาคผนวก/รายงานประชาคมประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน
ระเบียบวาระการประชุมประชาคมหมู่บ้านเพื่อประเมินการพัฒนาหมู่บ้านปี 2551
บ้านบรเพ็ด หมู่ที่ 5 ตำบลเป็นสุข อำเภอจอมพระ
วันที่ 29 เดือนมีนาคม พ.ศ.2551
เริ่มประชุม เวลา 19.00 น.
เมื่อที่ประชุมพร้อม นายลุน ปานทอง ผู้ใหญ่บ้านได้กล่าวเปิดการประชุมประชาคม
โดยได้ทำการนับองค์ประชุม มีตัวแทนครัวเรือน เข้าร่วมประชุม จำนวน 51 คน จากครัวเรือนทั้งหมด
จำนวน 51 ครัวเรือน ถือว่าครบองค์ประชุม จึงดำเนินการตามระเบียบวาระดังนี้
ระเบียบวาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งที่ประชุมทราบ
1.การจัดประชุมครั้งนี้เป็นการจัดประชุมประชาคมหมู่บ้าน เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็น
ในการประเมินสถานะการพัฒนาของหมู่บ้าน ซึ่งมีคณะทำงานจัดทำรายงานประเมินการพัฒนาหมู่บ้าน จำนวน 15 คน
เป็นผู้ร่างขึ้น
2.ความสำคัญในการประเมิน ประธานแจ้งที่ประชุมทราบว่า การประเมินการพัฒนาหมู่บ้านเป็นสิ่งที่
ชุมชนของเรา สามารถทำการวิเคราะห์ ทำความรู้จักตนเอง รู้จักชุมชน คิดหาแนวทางในการพัฒนาชุมชนบ้านเรา
โดยตัวเราเอง โดยเราจัดทำรายงานนี้ ถือว่าเป็นการสรุปข้อมูลหมู่บ้านในรอบหนึ่งปี ที่เกิดงานเกิดกิจกรรม
และสามารถใช้เป็นเครื่องมือให้พวกเราช่วยกันพัฒนาตนเอง ที่สำคัญให้พวกเรารู้ว่า เรามีทุน เรามีอาชีพอะไรที่เป็น
พื้นฐาน เรามีที่ท่องเที่ยว มีสินค้าพื้นเมือง หรือเรามีปราชญ์ชาวบ้าน ทีมีคุณค่าอยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ต้องมาดูว่า ในอีก
5 -10 ปี ข้างหน้าเราจะเอาสิ่งเหลานี้มาสร้างรายได้ให้กับพวกเราได้อย่างไร อันนี้ เรียกว่า "ตำแหน่งของชุมชน"
เราต้องเอาสิ่งเหล่านี้มาสร้างรายได้
ที่ประชุม มีมติรับรอง
ระเบียบวาระที่ 2 เรื่องเสนอที่ประชุมพิจารณา
1.ประธานนำร่างแบบรายงานผลการประเมิน มาอ่านให้ที่ประชุมได้ทราบ และร่วมกันพิจารณาในประเด็นต่าง ๆ
ให้ที่ประชุมทำการปรับปรุง แก้ไขได้ตามความเห็น และเหตุผลของที่ประชุม จนครบทุกประเด็น ประธาน
จึงได้สอบถามมติที่ประชุม ว่ารับรองหรือไม่
มติที่ประชุม ออกเสียงรับรอง จำนวน 51 คน
ปิดประชุม เวลา 20.00 น.
(ลงชื่อ) มูล ผู้บันทึกการประชุม
( นายมูล มั่นหมาย )
(ลงชื่อ) ลุน ผู้ตรวจรายงานการประชุม
( นายลุน ปานทอง )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น